ถ้าใครทำธุรกิจบน Facebook Platform อยู่แล้วล่ะก็ คงจะรู้สึกได้ว่าการโฆษณาบน Facebook นั้นยากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการเพิ่มจำนวนของ Facebook Fanpage มากมายที่ตอนนี้น่าจะมีหลายหมื่นเพจ แต่ละเพจต่างแย่งชิงพื้นที่โฆษณาเล็กๆบน News Feed ของเรา ความยากนี้รวมไปถึง การยิงโฆษณาอย่างไรให้ตรงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์มากที่สุด และทำอย่างไรเราถึงจะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของเรามากที่สุด
“การทำ Remarketing จะมาช่วยคุณแก้ปัญหาเหล่านี้ได้”
หัวข้อ (คลิกเลือกอ่านได้)
Facebook Remarketing คืออะไร?
Facebook Remarketing หรือ Facebook Retargeting คือ การทำโฆษณาซ้ำไปหากลุ่มเป้าหมายที่อาจเคยเข้าเว็บไซต์ของเรา, เคยเห็นโพสต์บางประเภทของเรา, หรือทำอะไรบางอย่าง เช่น กรอกแบบฟอร์มหรือเคยกด Like แฟนเพจของเรา
พูดง่ายๆคือ ให้ทางกลุ่มเป้าหมายของเราได้เห็นโพสต์ของแบรนด์และสินค้าของเราเป็นครั้งที่ 2-3-4 เพื่อตอกย้ำให้เค้าไม่ลืมเรา หรือช่วยกระตุ้นให้เค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด จะเป็นกลุ่ม E-Market Place ขนาดใหญ่อย่าง Lazada เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเคยเข้าไปดูสินค้าบางอย่างใน Lazada เมื่อเราดูสินค้าเสร็จ และกลับมาเปิด Facebook เราจะเห็นว่ามีโพสต์โฆษณาสินค้าที่เราเคยดูมาตามหลอกหลอนเราอยู่เรื่อยๆ บางทีอาจจะหลายๆวัน การที่เราได้เห็นโฆษณาสินค้าซ้ำแบบนั้นแหละที่เรียกว่า การทำ “Remarketing”
ทำไมธุรกิจของคุณควรทำ Facebook Remarketing?
การทำ Remarketing มีผลดีหลายประการ เช่น
1. ได้ติดต่อกับคนที่รู้จักเราอยู่แล้ว
การทำ Facebook Remarketing เป็นเหมือนการที่เราได้สื่อสารกับคนที่รู้จักเราอยู่แล้ว อาจจากการเข้าเว็บไซต์ของเราหรือเห็นโพสต์บางอย่างของเรา กลุ่มคนเหล่านี้จะทราบคร่าวๆแล้วว่าแบรนด์เราชื่ออะไรและขายสินค้าอะไร ทำให้การที่เรายิงโฆษณาโพสต์ Facebook ไปหาซ้ำ จะมีโอกาสที่เค้าจะหยุดดูและอาจซื้อสินค้าได้มากกว่าคนที่ไม่รู้จักเราเลย
2. เปิดโอกาสให้คนได้ทำความเข้าใจแบรนด์และสินค้าของคุณมากขึ้น
การที่คนๆหนึ่งเห็นแบรนด์หรือสินค้าในครั้งแรกนั้น คนเหล่านั้นอาจจะแค่มองผ่านๆตา แต่ยังไม่ได้ทำความเข้าใจแบรนด์และสินค้าของเรามากเท่าไรนัก การเห็นโพสต์เป็นครั้งที่ 2-3 จะเปิดโอกาสให้เค้าได้อ่านและทำความเข้าใจสินค้าของเรามากขึ้นว่าเรามีสินค้าอะไร มีจุดเด่นอย่างไร ฯลฯ เหมาะมากกับธุรกิจที่มี Customer Journey ในส่วน Consideration นาน หรือมีกระบวนการตัดสินใจก่อนซื้อนาน เช่น สินค้าราคาแพง อย่างรถยนต์ คอนโด หรือสินค้านวัตกรรมใหม่ที่ต้องอ่านทำความเข้าใจพอสมควร
3. Engagement หรือเปอร์เซ็นต์ในการปิดการขายที่มากขึ้น
คนที่เคยผ่านตาแบรนด์ของเราและทำความเข้าใจสินค้าของเรามาก่อน ย่อมมีเปอร์เซ็นต์ที่เค้าจะมีปฏิสัมพันธ์กับโพสต์หรือซื้อสินค้าที่สูงขึ้น เพราะคนเหล่านั้นน่าจะมีความสนใจอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อด้วยเหตุผลบางประการ การที่เราส่งโพสต์กลับไป “ตื้อ” เค้าซ้ำ ให้เค้าไม่ลืมสินค้าของเรา ก็ย่อมปิดการขายได้ดีมากขึ้น
4. ได้ติดต่อกับลูกค้าเก่า
การทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อสินค้าย่อมใช้ความพยายามและงบการตลาดที่น้อยกว่าการหาลูกค้าใหม่เสมอ เราสามารถนำ Facebook Remarketing มาใช้ปิดการขายกับลูกค้าเก่าได้ง่ายๆ
5. อัตรา Conversion ที่สูงขึ้น
หากธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจที่มีเว็บไซต์ อัตรา Conversion ปกติของเว็บไซต์ธุรกิจทั่วไป คือ 1-3% กล่าวคือ ถ้ามีคนเข้าเว็บไซต์คุณ 100 คน ธุรกิจส่วนใหญ่จะปิดการขายได้ที่ 1-3 คน คำถามคือแล้ว 90กว่าคนที่หายไปล่ะ? เราจะทิ้งเค้าไปให้สูญเปล่าไปยังนั้นเหรอ ทั้งๆที่เค้ามีโอกาสจะซื้อสินค้าของเรามากกว่าคนที่ไม่รู้จักเราเลย การยิงโพสต์โฆษณาไปหาเค้าซ้ำ เพื่อให้เค้าตัดสินใจกลับมาซื้อใหม่ ย่อมทำให้อัตราการปิดการขายของเว็บไซต์เราสูงขึ้นมากกว่าอัตราปกติได้
Remarketing จากอะไรได้บ้าง?
นอกเหนือจากแค่เว็บไซต์ ในแฟลตฟอร์มของ Facebook เราสามารถทำ Remarketing จากแหล่งหรือการกระทำของลูกค้าเป้าหมายได้หลากหลายมาก ดังนี้
1.ผู้เคยเข้าชมเว็บไซต์ของเรา
2.กิจกรรมบนแอพพลิเคชั่น
-
- สำหรับธุรกิจที่มี Application เป็นของตัวเอง เราจะสามารถทำโพสต์ Facebook Remarketing ไปหาคนที่เคยใช้ Application ของเราหรือทำอะไรบางอย่างที่เรากำหนดในแอพได้
3. การมีส่วนร่วมกับ Facebook Fanpage ของเรา
-
- เหมาะสำหรับธุรกิจที่ไม่ได้มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เราก็สามารถทำ Remarketing ได้นะ
- โดยทำโพสต์โฆษณาซ้ำจากคนที่เคยมามีส่วนร่วม (Engage) กับทาง Facebook Fanpage ของเรา เช่น เคยกดดู Video ที่เราโพสต์, เคยกดเปิดดู Canvas ที่เราทำขึ้น
- หรือถ้าไม่ได้ทำ Video และ Canvas เลย ก็สามารถทำ Remarketing ได้อีก (พี่มาร์คใจดีมากๆ) ด้วยการทำ Remarketing กับคนที่เคยมี Engagement (เคยมา Like เพจ, Like โพสต์, Comment, Share หรือ Click Link ฯลฯ) กับเพจของเราทั้งหมดย้อนหลังได้ถึง 365 วัน
ขั้นตอนการทำ Facebook Remarketing แต่ละประเภท
อย่างแรกที่ต้องทำความเข้าใจก่อนคือในการทำ Remarketing นั้น จะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 ขั้นเสมอ
ขั้นตอนที่ 1. เลือก Source
คือเราต้องเลือกก่อนว่าจะเราเก็บคนจากแหล่งไหน (ดูตัวอย่างรูปแบบด้านบน) เช่น
- ถ้าเราต้องการเก็บข้อมูลคนที่เคยเว็บไซต์ เท่ากับเราต้องมีเว็บไซต์ก่อน และทำการติดตั้ง Facebook Pixel (โค้ดเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์ของ Facebook) ไว้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา (สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Facebook Pixel และการติดตั้ง ได้ที่นี่)
- ถ้าเราต้องการเก็บจากคนที่เคยดู Video ของเรา เท่ากับเราต้องทำโพสต์ Video ก่อน ในการทำงานจริง โพสต์แล้วอาจจะโฆษณา Video นี้ เพื่อให้เข้าถึงคนจำนวนมาก ใครที่ Click เปิดดู Video ก็จะถูก Facebook เก็บเอาไว้ให้เราแบบอัตโนมัติ
ขั้นตอนที่ 2. สร้าง Custom Audience ใน Facebook
เมื่อเรามีแหล่งในการเก็บรวบรวมกลุ่มเป้าหมายแล้ว ก่อนที่เราจะสร้างโฆษณา Remarketing เราต้องมาสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบ “Custom Audience” ก่อน ในภาษาไทยของ Facebook จะเรียกว่า “กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง” เก็บไว้เป็นฐานข้อมูลในการนำไปยิงโฆษณา
กล่าวคือ แทนที่เราจะเลือกยิงโฆษณาด้วยการกำหนดรายละเอียดกลุ่มเป้าหมายแบบเดิมๆ (เช่น เลือกเพศ เลือกจังหวัด เลือกความสนใจ) เราก็เลือกยิงไปที่คนเคยเข้าเว็บไซต์เราโดยตรง (ในภาษาของ Facebook เรียกกลุ่มเป้าหมายแบบนี้ว่า Facebook Custom Audience)
NOTE: ข้อควรรู้
การเปิดบัญชี Business Manager
ในปัจจุบัน หากต้องการสร้าง Custom Audience เราจะต้องเปลี่ยนประเภทบัญชีโฆษณา Facebook จาก Personal Account เป็น Business Account ก่อน ซึ่งขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอะไร สามารถกดเปลี่ยนบัญชีเป็นแบบ Business ได้ที่นี่เลย “หน้าตัวจัดการธุรกิจ”
การสร้าง Custom Audience ด้วยคนเข้าที่ชมเว็บไซต์ (Website Visit)
เมื่อเราสร้างบัญชีโฆษณาแบบ Business แล้ว การจะสร้าง Custom Audience นั้นให้เราเข้าไปที่หน้า “ตัวจัดการโฆษณา” หรือ Facebook Ad Manager ของเรา (หรือคลิกที่นี่) และกดเมนูด้านบนสุดตามหมายเลข 1 และกดเลือก “Audiences” (กลุ่มเป้าหมาย) ตามหมายเลข 2
หลังจากนั้นให้คลิกเลือก “Create a Custom Audience” เพื่อเริ่มสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เราจะใช้ทำ Facebook Remarketing และคลิกเลือก “Website Traffic” หรือจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
ตั้งค่าเพิ่มเติมในส่วนของรายละเอียดที่เคยเข้าชมเว็บไซต์
หลังจากนั้น เราสามารถกำหนดได้ว่าให้ Facebook เลือกคนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของเราย้อนหลังเป็นระยะเวลาเท่าไร ซึ่งตัว Facebook เอง เปิดโอกาสให้ย้อนได้ถึง 365 วัน
เมื่อเราเลือกระยะเวลาย้อนหลังแล้ว ให้ตั้งชื่อกลุ่มเป้าหมายด้วยเสมอที่ Audience Name การตั้งชื่อนี้ ตั้งอย่างไรก็ได้ให้เราสามารถกลับมาอ่านแล้วเข้าใจ เช่น ABC Website Visitor January-March2019 เป็นต้น
เมื่อกด Create Audience เท่ากับเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ระบบของ Facebook ก็จะทำการคำนวนกลุ่มเป้าหมายว่านับย้อนหลังไปตามจำนวนวันที่เราต้องการ มีคนเข้าเว็บไซต์เราเป็นจำนวนเท่าไร และพร้อมสำหรับนำมายิงโฆษณา Facebook ได้เท่าไร
การสร้าง Custom Audience ด้วยคนที่เคยมีส่วนร่วมกับ Fanpage ของเรา
หากธุรกิจของเรายังไม่มีเว็บไซต์ เราก็สามารถทำ Remarketing ภายใน Facebook เองได้ด้วย ด้วยการยิงโฆษณาซ้ำไปหาคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์หรือทำอะไรบางอย่างกับ Facebook Fanpage ของเรา เช่น เคยเปิดดู Video ที่เราโพสต์ หรือคลิกเปิด Canvas ที่เราโฆษณา เป็นต้น
หรือแม้แต่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนเพจของเราย้อนหลังได้ถึง 365 วัน!
วิธีการสร้าง Custom Audience สำหรับ Remarketing ด้วย Engagement ในเพจ
เมื่อเราเข้ามาสู่หน้า Audience –> ให้คลิก “Create a custom audience” และเลือก “Engagement” (การมีส่วนร่วม)
เมื่อเลือก Engagement แล้วจะมีตัวเลือกต่างๆในการที่ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับเพจเรา เช่น คนคลิกดู Video, คนที่กรอกแบบฟอร์มของเรา, คนคลิกดู Canvas, คนมีปฏิสัมพันธ์กับ Facebook Fanpage หรือ Instagram
แบบที่ 1: VIDEO ENGAGEMENT: สร้าง Custom Audience จากคนที่เคยคลิกดู Video ของเรา
เมื่อกด Engagement ตามภาพด้านบนแล้ว –> ให้เลือกหัวข้อ “Video”
ต่อมา เราสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้
- ตรงช่อง Engagement: เลือกว่าเป็นคนที่เปิดดู Video เป็นระยะเวลานานเท่าไร เช่น 3 วินาที, 10 วินาที, 25%, 50%, 70%, 95% ตรงส่วนนี้แนะนำว่าไม่ควรเลือก 3 วินาที เนื่องจาก Facebook ของคนๆนั้นอาจจะเล่นอัตโนมัติ แต่เค้าไม่ได้สนใจดู Video ของเราจริงๆก็ได้
- หลังจากนั้นให้เลือกระยะเวลา ว่าเป็นคนที่ดู Video ย้อนหลังกี่วัน
- อย่าลืมตั้งชื่อที่ Audience Name
แบบที่ 2: CANVAS ENGAGEMENT: สร้าง Custom Audience จากคนที่เคยคลิก Canvas ของเรา
นอกเหนือจากโพสต์ใน Format Video เราสามารถทำ Remarketing ได้กับโพสต์อีกรูปแบบหนึ่งคือ รูปแบบ “Canvas / Fullscreen Experience”
ตัวอย่างโพสต์ในรูปแบบ CANVAS ที่เมื่อคลิกไปแล้ว จะเปิดออกเป็น Fullscreen เต็มหน้าจอ สามารถใส่รูปภาพหรือ Video และ Link ต่างๆได้
การเริ่มต้นสร้างให้คลิก “Create a custom audience” และเลือก “Engagement” (การมีส่วนร่วม) –> เลือก “Fullscreen Experience”
ตั้งค่าเพิ่มเติมในส่วนของการเปิดดู Canvas
- ตรงช่องแรก เราสามารถเลือกรูปแบบการเปิดได้ 2 แบบคือ คนที่กดเปิดดู Canvas เท่านั้น (People who opened this Instant Experience) หรือคนที่คลิก Link ใดๆใน Canvas ของเรา (People who clicked any links in this Instant Experience)
- ในช่อง In the past: เลือกจำนวนวันว่าเปิดภายในระยะเวลาย้อนหลังกี่วัน โดยได้สูงสุด 365 วัน
- หลังจากนั้น เลือก Page ที่ทำการโฆษณา Canvas (ในกรณีที่เราจัดการหลายเพจ)
- ในช่อง Select specific Instant Experience –> คลิกแล้วจะมีรายชื่อ Canvas ที่เราเคยโฆษณาทั้งหมด ให้เราเลือก Canvas ที่เราต้องการนำไปทำ Custom Audience เพื่อ Remarketing
แบบที่ 3: FANPAGE ENGAGEMENT: สร้าง Custom Audience จากคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับ Facebook Fanpage หรือ Instagram ของเรา
นอกเหนือจากโพสต์ในรูปแบบ Video, Canvas เราก็สามารถสร้าง Custom Audience เพื่อทำ Remarketing ด้วยคนที่มี Engagement กับเพจของเราย้อนหลังได้ เช่น คนที่เคยมากด Like เพจของเรา, เคยคลิกดูรูป, กด Like, Share, Comment, Click Link เป็นต้น แต่ทั้งนี้ จะไม่สามารถเลือกโพสต์ใดโพสต์หนึ่งได้
การเริ่มต้นสร้างให้คลิก “Create a custom audience” และเลือก “Engagement” (การมีส่วนร่วม) –> เลือก “Facebook Page” (ในกรณีต้องการคนมี Engagement กับ Instagram ก็สามารถทำได้ ด้วยการเลือก “Instagram Business Profile” ด้านล่าง)
ตั้งค่าเพิ่มเติม
- ตรงช่องแรก ให้เราเลือกเพจที่เราต้องการนำมาทำ Custom Audience
- ในช่องที่สอง เราสามารถกรองกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดมากว่าเป็นคนที่มี Engagement กับเพจของเราอย่างไร โดยสามารถเลือกได้
- Everyone who engaged with your page: ทุกๆคนที่มีส่วนร่วมกับเพจของเราในทุกๆการกระทำ ทั้ง ดูรูป, Like เพจ, share, comment ฯลฯ
- Anyone who visited your page: เฉพาะคนที่เข้ามาเยี่ยมชมหน้าเพจของเรา โดยอาจไม่มี Engagement ใดๆ
- People who engaged with any post or ad: เฉพาะคนที่มี Engagement กับเพจเราเท่านั้น คือ Reaction, Share, Comment, Link Clicks หรือเลื่อนดู Carousel ad ของเรา
- People who clicked any call-to-action button: เฉพาะคนที่กดปุ่ม Call-to-action ของเพจเรา เช่น ปุ่ม Send message, Contact us, Shop now
- People who sent a message to your page: เฉพาะคนส่งข้อความ inbox มาหาเพจ ***ใครยังไม่มีปุ่ม Messenger Broadcast หรือทำการ Broadcast เต็มจำนวนที่กำหนดแล้ว มาซื้อโฆษณาแบบนี้เพื่อสื่อสารกับคนเคยทัก Inbox เราได้
- People who saved your page or any post: เฉพาะคนที่เคย save โพสต์หรือเพจของเรา
ขั้นตอนที่ 3. สร้างโฆษณา (Remarketing / Retargeting Ads)
ขั้นตอนสุดท้าย จะเป็นขั้นตอนในการยิงโฆษณา คือ การสร้างโฆษณา Facebook ตามปกติ แต่เมื่อเราต้องเลือกกลุ่มเป้าหมายให้เลือกเป็น Custom Audience ที่เราสร้างไว้
สิ่งที่ต้องสังเกตคือ การยิงโฆษณาด้วยการเลือก Custom Audience นั้น ต้องเป็นการยิงโฆษณาด้วยระบบหลังบ้านหรือ “ตัวสร้างโฆษณาของ Facebook’ (Facebook Ad Manager) จะยิงแบบกด Boost Post ที่ด้านล่างขวาของโพสต์ไม่ได้
ตัวอย่างหน้ายิงโฆษณา ในหน้าที่เรากำหนดรายละเอียดกลุ่มเป้าหมาย ให้เลือกตรงหัวข้อ “Custom Audiences’ –> เลือกแถบ “Custom Audience” –> จะปรากฎ Custom Audience ที่เราสร้างไว้ทั้งหมด ให้เราเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการนำมายิงโฆษณา
START! ลงมือทำและร่วมพูดคุย
จบไปแล้วกับการทำ Remarketing บน Facebook ลองปรับใช้กับธุรกิจหรือการยิงโฆษณา Facebook ของคุณดู หากมีคำถาม ข้อเสนอแนะ หรืออยากแชร์ประสบการณ์กับทาง STARTUP NOW ทางเรายินดีเสมอนะคะ 🙂