ดาวน์โหลดรูปฟรี ได้ที่ไหนบ้าง หลายคนเลยนะคะที่ขวัญได้ไปสอนการทำคอนเทนต์ มักประสบกับปัญหาเรื่องของรูปภาพประกอบคอนเทนต์ และรูปภาพที่ใช้ทำสื่อธุรกิจต่าง ๆ ยังไม่สวยพอ หรือ ไม่น่าสนใจมากพอ ส่วนหนึ่งอาจเพราะเราไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพที่จะถ่ายภาพได้สวยงามทั้งเรื่องการจัดวางองค์ประกอบ การควบคุมแสงเงา ฯลฯ อีกส่วนคือภาพที่เรามีอาจไม่ครอบคลุมทุกคอนเทนต์ที่เราอยากจะทำก็ได้
วันนี้ขวัญเลยจะมาแนะนำทุกท่าน ๆ ค่ะ ว่าถ้าเราอยากได้รูปภาพสวย ๆ มาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการนำไปประกอบคอนเทนต์ ประกอบรูปในสื่อธุรกิจต่าง ๆ โปสเตอร์โบรชัวร์ เว็บไซต์ ฯลฯ เราจะไปหารูปสวย ๆ และดูเป็นมืออาชีพมาจากแหล่งไหนได้บ้าง รวมไปถึงเราจะต้องมีขั้นตอนยังไงในการนำไปใช้ คำตอบอยู่ในคลิปด้านล่าง กดดูคลิปและทำตามได้เลยค่ะ
ทุกท่านคงจะทราบดีนะคะว่ารูปภาพเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ ในการขายของออนไลน์ เพราะว่าลูกค้าที่ซื้อของออนไลน์จะเห็นแค่รูปภาพเท่านั้น ไม่ได้เห็นสินค้าจริง ไม่ได้เจอคนขายโดยตรงแต่ใช้วิธีแชทและส่งรูปสินค้าแทน เพราะฉะนั้นปัจจัยสำคัญเลยที่จะทำให้ลูกค้าสะดุดตากับโพสต์หรือโฆษณาของคุณ และตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าจึงอยู่ที่รูปภาพเป็นสำคัญ
ในฐานะเจ้าของธุรกิจ แอดมินดูแลเพจ หรือ คนทำคอนเทนต์ ถ้าเราอยากที่จะได้รูปสวย ๆ เอาไปประกอบงาน สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดเลยนะคะ ก็คือการดาวน์โหลดรูปภาพจาก Google มาใช้ อันนี้เป็นสิ่งที่ขวัญแนะนำว่าอย่าทำ เพราะว่ารูปส่วนใหญ่ที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตมักเป็นรูปที่ติดลิขสิทธิ์ เป็นรูปของแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งถ้าเรานำมาใช้ประกอบคอนเทนต์มีแนวโน้ม มีความเสี่ยงที่เราจะโดนฟ้องเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ค่ะ อาจจะต้องเสียทั้งเงินค่าปรับ เสียเวลา และยังเสียชื่อเสียงของแบรนด์เราที่อุตส่าห์สั่งสมมานานด้วย ไม่คุ้มเลยใช่ไหมคะ
สิ่งที่เราควรจะทำเวลาที่ต้องการได้รูปภาพสวย ๆ มาประกอบงานกราฟิก ก็คือการไปดาวน์โหลดภาพผ่านเว็บไซต์ที่เรียกกันว่า Web Stock Photo ค่ะ
หัวข้อ (คลิกเลือกอ่านได้)
Web Stock Photo คืออะไร?
Web Stock Photo คือ เว็บไซต์ที่รวมรูปภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ภาพกราฟิก งานออกแบบบรรจุภัณฑ์ก็มีนะคะ หรือ บางเว็บมีวีดีโอ มี Motiongraphic (ภาพกราฟิกเคลื่อนไหวได้สำหรับประกอบวีดีโอหรือเว็บไซต์) จากเหล่าช่างภาพ ช่างวีดีโอ กราฟฟิกดีไซเนอร์ ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ที่ถ่ายทำ สร้างสรรค์ และนำมาอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ไว้เพื่อแสดงผลงาน สร้างชื่อเสียง และสร้างรายได้
ซึ่ง Web Stock Photo บางเว็บไซต์ก็จะมีการรวมรูปภาพและงานดีไซน์ต่าง ๆ ที่ทั้งขาย และอนุญาตให้เราสามารถ ดาวน์โหลดรูปฟรี ได้นะคะซึ่งวันนี้ขวัญจะมาแนะนำ 4 เว็บไซต์แหล่ง ดาวน์โหลดรูปฟรี ที่รูปภาพสวย และไม่ติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ค่ะ
ข้อแนะนำการใช้รูปจาก Web Stock Photo
ถึงแม้ว่า Web Stock Photo ส่วนใหญ่จะให้เราดาวน์โหลดรูปมาใช้ได้ฟรี แต่เราก็ควรที่จะเข้าไปอ่านเงื่อนไขการนำรูปมาใช้ด้วยนะคะ เพราะบางเว็บก็อนุญาตให้เราดาวน์โหลดรูปไปใช้ได้ฟรีโดยที่ไม่ต้องให้เครดิตเลย แต่บางเว็บไม่ได้เป็นแบบนั้น
เช่น มีข้อกำหนดชัดเจนเลยว่าถ้าจะนำรูปไปไม่ว่าจะใช้ส่วนตัว หรือ ใช้ในเชิงพาณิชย์ (คือ เอาไปใช้ในสื่อการตลาดต่าง ๆ ของธุรกิจเรา) จะต้องใส่เครดิตเว็บ หรือ เครดิตเจ้าของภาพลงไปด้วย ซึ่งถ้าเราไม่ใส่เครดิตจะถือว่าทำผิดข้อสัญญาการใช้รูปฟรี เว็บนั้นหรือเจ้าของรูปนั้นสามารถฟ้องเราว่าละเมิดลิขสิทธิ์ได้เลยนะคะ
ดังนั้นในการแนะนำ 4 เว็บไซต์แหล่ง ดาวน์โหลดรูปฟรี ด้านล่างนี้ ขวัญจะแนะนำวิธีเข้าไปอ่านข้อกำหนดหรือสัญญาลิขสิทธิ์ของแต่ละเว็บด้วยนะคะ ทุกคนจะได้สามารถนำรูปมาใช้ได้อย่างถูกต้องและสบายใจค่ะ
แนะนำ 4 Web Stock Photo รวมภาพสวยให้ ดาวน์โหลดรูปฟรี
1.unsplash.com
เว็บแรกที่ขวัญอยากแนะนำคือ www.unsplash.com นะคะ เป็นเว็บสต็อกที่ภาพสวย ใช้งานง่าย และที่สำคัญคือ ฟรีค่ะ!
วิธีใช้ก็ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ จะเห็นว่าเมื่อเราเข้ามาที่หน้าแรก จะมีช่องการค้นหาขึ้นมาเลย เพื่อให้เราค้นหารูปได้โดยสะดวก เราแค่พิมพ์คำที่เป็นคีย์เวิร์ดของภาพที่เราอยากได้ลงไปในช่องการค้นหา เช่น ถ้าเราอยากได้รูปกาแฟ เราก็พิมพ์ Coffee ได้เลย ก็จะมีรูปกาแฟสวย ๆ แสดงผลให้เลือกเยอะแยะเลย
จุดเด่นอีกอย่างของเว็บนี้คือ พอเรา search คำไหน ระบบจะแนะนำภาพที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันขึ้นมาให้ด้วย เพื่อช่วยให้เราสืบค้นง่ายขึ้น และมีตัวเลือกมากขึ้นด้วยค่ะ
หรือถ้าเรายังไม่แน่ใจว่าควรจะต้องใช้รูปอะไร เราก็สามารถดูจากแถบเมนูด้านบนนะคะ จะมีการแยกประเภทของภาพเป็นหัวข้อกว้าง ๆ เราก็คลิกเข้าไปเลือกดูได้ค่ะ
ซึ่งรูปพวกนี้เราสามารถกดดาวน์โหลดมาใช้กับงานคอนเทนต์ หรืองานต่าง ๆ ได้เลย โดยเราต้องการรูปไหน เราก็กดที่คำว่า ‘Download free’ ได้เลยค่ะ ภาพจะดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
วิธีอ่านข้อกำหนดเรื่องลิขสิทธิ์
1. ดูที่แถบเมนูด้านบนของหน้าหลักของเว็บ กดตรงจุด 3 จุด (ตามภาพ)
2. เลื่อนลงมาด้านล่างของแถบเมนูย่อย คลิกตรง ‘License’ หรือสัญญา
3. คำอธิบายลิขสิทธิ์ ระบุว่า
- รูปภาพทุกรูปสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
- อนุญาตให้นำไปได้ทั้งแบบส่วนตัวและในเชิงพาณิชย์
- ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เครดิต (แต่ถ้าเราให้เครดิต เค้าก็จะขอบคุณมาก)
4. สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดคือ
- ห้ามเอารูปไปขาย
- ห้ามนำรูปไปทำธุรกิจแข่งขัน unsplash หมายถึงว่า ดาวน์โหลดรูปไปแล้วไปเปิดเว็บที่ให้ดาวน์โหลดรูปฟรีเหมือนกันกับ unsplash
2. pixabay.com
ลักษณะการใช้งานก็จะคล้ายกันกับ unsplash คือ พิมพ์คำที่ต้องการค้นหารูปลงในช่องการค้นหา โดยใน pixabay ก็จะมีประเภทของรูปภาพหลากหลายเช่นกันนะคะ มีทั้งรูปภาพที่เป็นภาพถ่าย เป็น Vector เป็นภาพกราฟฟิคที่เป็นไฟล์ .ai สำหรับให้นำไปใช้กับโปรแกรมแต่งภาพ illustrator ได้เลย หรือเป็นไฟล์วีดีโอก็มีนะคะ
pixabay มีคำแนะนำสำหรับการค้นหาขั้นสูงด้วยนะคะเพื่อช่วยประหยัดเวลาในการค้นหา ให้เราสามารถหาภาพที่ต้องการ ภาพที่โดนใจ ได้ด้วยเทคนิคการค้นหาที่ pixabay มีแนะนำให้เพิ่มเติมใน Search Option ที่เราสามารถคลิกเข้าไปอ่านได้ค่ะ
วิธีอ่านข้อกำหนดเรื่องลิขสิทธิ์ของ pixabay.com
1. คลิกที่คำว่า ‘สำรวจ’ (Explore) ที่แถบเมนูด้านบนในหน้าหลัก
2. คลิกเลือกเมนูย่อย ‘ข้อกำหนด’ (Terms)
3. คลิกที่แถบเมนูด้านซ้ายมือ ‘ลิขสิทธิ์’ (License)
4. คำอธิบายลิขสิทธิ์ระบุว่า
- รูปภาพทุกรูปสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
- อนุญาตให้นำไปได้ทั้งแบบส่วนตัวและในเชิงพาณิชย์
- จะนำไปตีพิมพ์หรือเป็นสื่อออนไลน์ก็ได้ ยกเว้นในกรณีใด ๆ ที่ถูกระบุไว้ในข้อห้ามด้านล่าง
- ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เครดิต (แต่ถ้าเราให้เครดิต เค้าก็จะขอบคุณมาก)
- อนุญาตให้ดัดแปลงตกแต่งรูปเพื่อให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ได้
5. สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด คือ
- ห้ามนำไปแจกจ่ายหรือขายต่อบนแพลตฟอร์ม Web Stock Photo หรือวอลเปเปอร์อื่น ๆ
- ห้ามขายสำเนาของรูปภาพที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ห้ามขายภาพออริจินอลที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงตกแต่ง
- ห้ามนำภาพไปใช้ในเชิงของการดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามบุคลิกลักษณะทางกายภาพคนอื่น (อย่างเช่นเอาภาพนางแบบสวย ๆ ไปแต่งให้หน้าเป็นสิว หรือ ผิวไม่สวย เพื่อขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แบบนี้ไม่ได้นะคะ)
- ห้ามนำภาพที่มีตราโลโก้สินค้าเอาไปใช้เชื่อมโยงกับสินค้าหรือบริการของตัวเองโดยมุ่งหวังให้คนเข้าใจผิด (ยกตัวอย่าง ใช้ภาพถ่ายผลิตภัณฑ์ที่มีตราแบรนด์ดัง ไปใช้ในคอนเทนต์โฆษณาร้านของเราที่ชวนให้คนเข้าใจผิดว่าเราเป็นตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น)
3. pexels.com
pexels.com ก็จะเหมือนกันกับเว็บ Stock Photo ที่ขวัญแนะนำไปข้างต้นเลยค่ะ คือ เป็นเว็บที่เราสามารถดาวน์โหลดรูปมาใช้ได้ฟรีเลยโดยที่เราไม่จำเป็นต้องให้เครดิต เป็นเว็บรวมรูปฟรีที่ดีมาก ๆ อีกเว็บนึง
การใช้งานจะคล้าย ๆ กันค่ะ คือพิมพ์คำลงในช่องการค้นหา ซึ่งเมื่อเราคลิก 1 ครั้งในช่องการค้นหาของ pexels.com เว็บจะแสดงประเภทของรูปให้เราเลือกด้วยค่ะ หรือจะคลิกที่คำว่า ‘สำรวจ’ (Explore) ที่แถบเมนูด้านบนก็ได้เช่นกันค่ะ
ดูข้อกำหนดเรื่องลิขสิทธิ์ของ pixabay.com
1. คลิกที่ ‘License’ ที่แถบเมนูด้านบน
2. คำอธิบายลิขสิทธิ์
- รูปภาพทุกรูปสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
- ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เครดิต (แต่ถ้าเราให้เครดิต เค้าก็จะขอบคุณมาก)
- อนุญาตให้ดัดแปลงตกแต่งรูปเพื่อให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ได้
- อนุญาตให้นำไปได้ทั้งแบบส่วนตัวและในเชิงพาณิชย์
- จะนำไปตีพิมพ์หรือเป็นสื่อออนไลน์ก็ได้ ยกเว้นในกรณีใด ๆ ที่ถูกระบุไว้ในข้อห้ามด้านล่าง
3. สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดเลย
- ห้ามนำไปแจกจ่ายหรือขายต่อบนแพลตฟอร์ม Web Stock Photo หรือวอลเปเปอร์อื่น ๆ
- ห้ามขายสำเนาของรูปภาพที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ห้ามขายภาพออริจินอลที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงตกแต่ง
- ห้ามนำภาพไปใช้ในเชิงของการดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามบุคลิกลักษณะทางกายภาพคนอื่น (อย่างเช่นเอาภาพนางแบบสวย ๆ ไปแต่งให้หน้าเป็นสิว หรือ ผิวไม่สวย เพื่อขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แบบนี้ไม่ได้นะคะ)
- ห้ามนำภาพที่มีตราโลโก้สินค้าเอาไปใช้เชื่อมโยงกับสินค้าหรือบริการของตัวเองโดยมุ่งหวังให้คนเข้าใจผิด (ยกตัวอย่าง ใช้ภาพถ่ายผลิตภัณฑ์ที่มีตราแบรนด์ดัง ไปใช้ในคอนเทนต์โฆษณาร้านของเราที่ชวนให้คนเข้าใจผิดว่าเราเป็นตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น)
4. Freepik.com
Freepik.com เป็น Web Stock Photo ยอดนิยมที่คนใช้จำนวนมากอีกเว็บหนึ่งค่ะ ข้อดีของ Freepik.com ก็คือมีรูปสวย ๆ เยอะมากๆ มีทั้งรูปจริง รูปวาด รูปกราฟฟิก รูปที่เป็น .ai หรือ .psd ที่พร้อมให้แก้ไขตกแต่งด้วย illustrator หรือ Adobe Photoshop รวมถึงเทมเพลตพรีเซนเทชั่น วีดีโอ และอีกมากมายให้เลือกใช้
ข้อดีอีกอย่างที่สำคัญมาก ๆ ของ Freepik คือ รูปภาพค่อนข้างเป็นเชิงธุรกิจ มีความสวยงาม เป็นทางการ ดูเป็นมืออาชีพ สามารถนำไปใช้ประกอบการทำสื่อการตลาดของธุรกิจต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมค่ะ
ข้อควรรู้ก่อนดาวน์โหลดรูปจาก Freepik.com
วิธีดูข้อกำหนดต่าง ๆ ของ Freepik ทำได้โดยเลื่อนลงมาที่รวมเมนูหลักด้านล่างสุดของหน้าเว็บ และคลิกเลือก ‘License Agreement’ ค่ะ ซึ่งก็จะมีข้อกำหนดมากมายเลยนะคะ ขวัญแนะนำให้อ่านและทำความเข้าใจโดยละเอียดนะคะ
แต่สิ่งที่ขวัญจะแนะนำ และคิดว่าหลายคนที่ตอนนี้ใช้รูปจาก Freepik อาจจะยังไม่ทราบนะคะ ว่าข้อกำหนดลิขสิทธิ์ ของ Freepik จะแตกต่างจากเว็บ Stock Photo อื่น ๆ ที่ให้ดาวน์โหลดรูปฟรีตรงที่เราสามารถดาวน์โหลดรูปมาใช้ได้ฟรี แต่จะต้องให้เครดิตเว็บเสมอ โดยให้มีคำว่า Designed by Freepik อยู่ในรูป มิฉะนั้นจะเป็นการผิดเงื่อนไขข้อสัญญาที่อาจจะทำให้คุณถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ภายหลังได้ค่ะ
ดังนั้นขวัญจึงอยากจะแนะนำผู้ที่ต้องการใช้รูปของ Freepik.com ก็คือ ถ้าใช้แบบฟรีเราจะต้องให้เครดิตเว็บให้ถูกต้องตามข้อกำหนด
ถ้าสังเกตดูภาพในเว็บนี้ส่วนใหญ่จะมีคำว่า ‘Designed by Freepik’ อยู่ด้านล่างของรูปทุกรูปอยู่แล้ว เวลาเรานำรูปไปใช้ก็อย่าไปตัดของเค้าออกนะคะ หรือถ้าจำเป็นต้องนำออก ก็ต้องไปเขียนให้เครดิตที่คอนเทนต์แทนค่ะ
แต่ถ้าเราไม่อยากจะให้เครดิต ก็มีอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ คือ เราซื้อแพคเกจของ Freepik เลยค่ะ ซึ่งจริงๆ ราคาของ Freepik ถือว่าค่อนข้างถูกและมีความคุ้มค่ามาก ๆ เมื่อเทียบกับเว็บ Stock Photo อื่น
โดยแพคเกจจะเป็นลักษณะบุฟเฟ่ต์ค่ะ แต่ถ้าเป็นเว็บ Stock Photo อื่น ๆ นอกจากราคาจะค่อนข้างราคาสูงแล้ว ยังมีการจำกัดจำนวนภาพที่เราสามารถดาวน์โหลดได้อีกด้วย ค่าบริการของเว็บ Stock Photo ที่เรียบเก็บเงินเฉลี่ยก็จะเริ่มต้นที่ 1,500 – 2,000 บาท ต่อ 10 – 15 รูป ซึ่งถือว่าราคาต่อรูปจะค่อนข้างสูงค่ะ
แต่สำหรับ Freepik ที่มีลักษณะแพคเกจแบบบุฟเฟ่ต์ คือ เมื่อเราชำระเงินแล้วเราจะดาวน์โหลดรูปจำนวนเท่าไหร่ก็ได้เลยภายในระยะเวลาที่กำหนดตามแพคเกจที่เราซื้อ ราคาจะเริ่มต้นที่เดือนละ 360 บาทเท่านั้นเองค่ะ เท่านี้เราก็สามารถใช้รูปใน Freepik ได้ทั้งหมดเลยอย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ และไม่จำเป็นต้องติดเครดิตในภาพอีก
เนื่องจาก Freepik จะมีทั้งแบบให้ดาวน์โหลดฟรี (แต่ต้องให้เครดิต) กับแบบที่เสียเงินซื้อแพคเกจ ดังนั้น Freepik จึงมีระบบการค้นหาที่ใช้ง่าย ๆ มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ต้องการดาวน์โหลดรูปค่ะ โดยคลิกที่แถบเมนูด้านบนคำว่า ‘Filter’ และดูหัวข้อย่อย ‘License’
ต้องการดาวน์โหลดรูปแบบฟรี (ให้เครดิต) คลิก ‘Free’
ต้องการดาวน์โฟลดรูปตามแพคเกจ (ไม่ต้องให้เครดิต) คลิก ‘Premium’
จริง ๆ แล้วถ้าเราลองเสิร์ชจากกูเกิ้ลดูจะพบว่ามี Web Stock Photo อีกเป็นจำนวนมากเลยนะคะ แต่ว่าจากที่ขวัญเคยทดลองใช้จริง ๆ ในธุรกิจของขวัญเอง พบว่า 4 เว็บที่ขวัญแนะนำข้างต้นเป็นเว็บที่ใช้งานได้จริงมากที่สุด เพราะรูปสวย ผ่านการตกแต่งมาแล้วอย่างมืออาชีพ เหมาะกับการนำไปใช้ประกอบการทำธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เลยค่ะ ทดลองใช้กันดูนะคะ 🙂
อย่าลืมติดตามข่าวสาร สาระ เรื่องราวดิจิตอล ฉบับเข้าใจง่ายได้ทุกวันที่ Facebook Fanpage ของ StartUp Now นะคะ STARTUP NOW Facebook Fanpage
อ่านเรื่องการตลาดดิจิตอลเพิ่มเติมได้ที่นี่ บทความการตลาดออนไลน์
อยากดูคลิปความรู้ดิจิตอลฉบับเข้าใจง่ายคลิปอื่น ๆ ไปเยี่ยมชมช่อง YouTube ของ StartUp Now กัน